‘สิงห์-หงส์’ยกพลบุก!ลุ้นเฮพรีเมียร์ลีก โควิดทำพิษ‘แดร์คลาสสิเคอร์’จำกัดผู้ชม

December 4, 2021 News Comments Off on ‘สิงห์-หงส์’ยกพลบุก!ลุ้นเฮพรีเมียร์ลีก โควิดทำพิษ‘แดร์คลาสสิเคอร์’จำกัดผู้ชม

 

การดวลแข้งฟุตบอลลีกยุโรป ประจำวันเสาร์ที่ 4 ธันวาคมนี้ในศึกพรีเมียร์ลีก ที่สนามลอนดอน สเตเดี้ยม เวลา 19.30 น.“ขุนค้อน” เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ดวลกับ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี

เจ้าถิ่น เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ฟอร์มสะดุดมา 2 เกมติดนัดล่าสุดทำได้เพียงเสมอกับ ไบรท์ตัน 1-1 เกมนี้ยังไม่มี อังเจโล่ อ๊อกบอนน่า ปราการหลังที่บาดเจ็บ ในรายของแอรอน แครสส์เวลล์ รอเช็คความฟิต นอกนั้นทีมของ เดวิด มอยส์ ไม่มีปัญหาอะไรให้กังวล ยังยึดระบบการเล่น 4-2-3-1 เหมือนเดิม โทมัส ซูเซ็ค คุมแดนกลางร่วมกับ เดแคลน ไรซ์ เกมรุกใช้ จาร์ร็อด โบเว่น ประสานงานกับ ซาอิด เบนราห์มา และปาโบล ฟอร์นาล์ส โดยมี มิคาอิล อันโตนิโอ ยืนหน้าเป้า

ทางฝั่ง เชลซี ยังคงนำจ่าฝูงของตารางเว็บคาสิโนออนไลน์อันดับ1หลังจากบุกเอาชนะ “แตนอาละวาด” วัตฟอร์ด มา 2-1 เกมนี้ยังไร้เงามัตเตโอ โควาซิซ, เอ็นโกโล่ ก็องเต้, เบน ชิลเวลล์ และเทรเวอร์ ชาโลบาห์ ส่วนรีซ เจมส์ ที่ไม่ได้เล่นในเกมล่าสุด รอเช็คความฟิต มีความเป็นไปได้ว่า เซซาร์ อัซปิลิกวยต้า จะประจำการตำแหน่งวิงขวาแทน ที่เหลือพร้อมลงเล่นได้หมด ถอยเอา เมสัน เม้าท์ มายืนคู่กลางร่วมกับ จอร์จินโญ่ พร้อมส่ง โรเมลู ลูกากู ลงไปประสานงานกับ ฮาคิม ซีเย็ค และไค ฮาแวร์ตซ์ ในเกมรุก

สถิติการพบกันของทั้งสอง 5 เกมหลังสุด ถือว่าสูสีไม่เคยจบลงด้วยผลเสมอ เชลซี เอาชนะได้ 3 ส่วนเวสต์แฮม ยูไนเต็ด ชนะ 2

อีกเกมที่สำคัญของพรีเมียร์ลีก “หมาป่า” วูล์ฟแฮมป์ตันปะทะกับ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล เวลา 22.00 น. โดยเจ้าถิ่น“หมาป่า” เกมนี้ยังไม่มีตัวเจ็บอย่าง เปโดร เนโต้, จอนนี่ อ๊อตโต้, วิลลี่ โบลี่ ส่วน แดเนี่ยล โพเดนซ์ เพิ่งหายจากโควิด-19 ต้องฟื้นฟูร่างกาย ข่าวดีคือการได้ รูเบน เนเวส พ้นโทษแบนกลับมาคุมแดนกลางร่วมกับ ชูเอา มูตินโญ่แกนหลักที่เหลือถือว่าพร้อม นำโดย เนลสัน เซเมโด้, อดาม่า ตราโอเร่, ราอูล ฆิเมเนซ และควาง ฮี-ชาน

ฟากฝั่ง “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่ฟอร์มร้อนแรงอย่างต่อเนื่องชนะมา 4 เกมติด ล่าสุดทำศึกเมอร์ซี่ย์ไซด์ ดาร์บี้ บุกถลุงเพื่อนบ้านอย่าง เอฟเวอร์ตัน 4-1 เกมนี้ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงตัวที่เจ็บอย่าง โรแบร์โต้ ฟีร์มิโน่, นาบี เกอิต้า, ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์, เคอร์ติส โจนส์ และโจ โกเมซ ลงเล่นไม่ได้ คาดว่า เจอร์เก้น คล็อปป์ ไม่น่าปรับเปลี่ยนทีมใช้ระบบ 4-3-3 จอร์แดน เฮนเดอร์สัน, ฟาบินโญ่ และธีอาโก้ อัลคันทาร่า คุมแดนกลาง สามประสานในเกมรุกเป็น โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่ฤดูกาลนี้ในลีก 14 เกมยิงไป 13 ประตู และทำอีก 8 แอสซิสต์ เล่นร่วมกับ ดีโอโก้ โชต้า และซาดิโอ มาเน่

สถิติการพบกันของทั้งสอง 5 เกมหลังสุด ลิเวอร์พูล เหนือกว่าเยอะเก็บเรียบชนะได้ทั้ง 5 เกม ฤดูกาลที่แล้วเล่นในบ้านถล่ม 4-0 ก่อนจะบุกไปเอาชนะได้อีก 1-0

ทางด้านศึกใหญ่ที่เยอรมนี “เสือเหลือง” ดอร์ทมุนด์ ทำศึกกับ “เสือใต้” บาเยิร์น มิวนิค เวลา 00.30 น. เป็นศึก “แดร์ คลาสสิเคอร์” ซึ่ง พีพีทีวี เอชดี ช่อง 36 เล่นกันที่ ซิกนัล อีดูน่า พาร์ค โดยจะมีแฟนบอลเข้าชมได้เพียง 15,000 คนตามกฎของประเทศ เนื่องจากโควิด-19 กลับมาระบาดหนักอีกครั้ง

ความพร้อมเจ้าบ้าน ข่าวดีที่สุดคือการได้ เออร์ลิ่ง เบร้าท์ฮาแลนด์ ดาวยิงคนสำคัญหายจากอาการบาดเจ็บกลับมา เชื่อว่าพร้อมสุด ๆ สำหรับเกมนี้ แต่ก็มีข่าวร้ายเหมือนกัน เมื่อ จู๊ด เบลลิ่งแฮม, ธอร์กอง อาซาร์ และโจวานนี่ เรย์น่า เดี้ยงลงเล่นไม่ได้ ส่วนทีมเยือน บาเยิร์น มิวนิค ช่วงหลังยิงประตูได้น้อยลง เกมนี้ไม่มี มาร์เซล ซาบิตเซอร์ ที่บาดเจ็บ ส่วนโยชัว คิมมิช และเอริค มักซิม ชูโป-โมติง ติดโควิด-19 ต้องลุ้นว่าจะพร้อมหรือไม่ ส่วนตำแหน่งอื่นๆ ไม่มีปัญหาอะไรนำโดย คิงสลีย์ โกมาน, โธมัส มูลเลอร์, เลรอย ซาเน่ และโรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้